“สอบ ก.พ. 2566” เปิดวิธีสมัครสอบ ทั้งแบบ e-Exam และ Paper & Pencil

“สอบ ก.พ. 2566” เปิดวิธีสมัครสอบ ทั้งแบบ e-Exam และ Paper & Pencil

เปิดวิธีสมัครสอบ ก.พ. 2566 แบบละเอียด ทั้งแบบ e-Exam และ Paper & Pecil เช็กเลยต้องทำอย่างไร เราเลือกสอบแบบไหนได้บ้าง!

ใครที่กำลังรอคอยการประกาศสอบ ก.พ. ประจำปีนี้! ถือเป็นข่าวดีเมื่อล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ได้ประกาศรับสมัครสอบเรียบร้อยแล้ว เริ่มวันที่ 30 มกราคม -17 กุมภาพันธ์ 2566

ดังนั้นแล้ววิธีการสมัครสอบ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เราได้นำข้อมูลแบบละเอียดๆ มาฝาก ให้ทุกคนทำตามกันแบบง่ายๆ กัน!

สอบ ก.พ. คืออะไร

สอบ ก.พ. คือ การสอบคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำงานให้หน่วยงานราชการ ซึ่งจะมีการจัดสอบเป็นประจำทุกปี

“สอบ ก.พ. 2566” เปิดวิธีสมัครสอบ ทั้งแบบ e-Exam และ Paper & Pencil

สำนักงาน ก.พ. จะรับสมัครสอบทั้งผู้ที่จบการศึกษาและผู้ที่กำลังศึกษาชั้นปีสุดท้าย โดยมีระดับวุฒิการศึกษา ดังนี้

  • ระดับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
  • ระดับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) อนุปริญญา หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
  • ระดับวุฒิปริญญาตรี
  • ระดับวุฒิปริญญาโท

วิธีการสมัครสอบ ก.พ.

ในการสมัครสอบนั้น จะมีให้เลือกสอบแบบ e-Exam และ แบบ Paper & Pencil

“สอบ ก.พ. 2566” เปิดวิธีสมัครสอบ ทั้งแบบ e-Exam และ Paper & Pencil
  • การสมัครสอบแบบ e-Exam (วุฒิการศึกษาระดับ ป.ตรี และ ป.โท)

1.) เข้าเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th/OCSRegisterWeb/enrollselect

2.) เลือกหัวข้อย่อย “การสมัครสอบ ก.พ. แบบ e-Exam

3.) เลือกรอบสอบ สถานที่สอบ และกรอกข้อมูลเพื่อตรวจสอบสิทธิการสมัครสอบ กรอกข้อมูลในใบสมัครสอบ เมื่อยืนยันการสมัครสอบแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้

4.) กรณีที่นั่งสอบในรอบสอบที่ต้องการเต็มแล้ว ผู้สมัครสอบสามารถเลือกรอบสอบอื่นที่ยังมีที่นั่งสอบเหลืออยู่ หากไม่สามารถเลือกรอบสอบใด ๆ ได้เนื่องจากที่นั่งสอบเต็มทุกรอบสอบแล้ว ผู้สนใจสมัครสอบอาจตรวจสอบรอบสอบที่ว่างได้อีก เมื่อมีผู้ไม่ชำระเงินภายในวัน เวลาที่กำหนด

5.) กรอกข้อมูลการชำระเงินสมัครสอบ โดยสามารถปรินต์ไปชำระธนาคารต่างๆ หรือปริ้นคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai Next” หรือ “เป๋าตัง”ก็ได้

6.) หลังจากชำระเงินแล้ว 1 วัน ให้ผู้สมัครสอบเข้าไปตรวจสอบใน เว็บไซต์ แล้วอัพโหลดรูปถ่ายของผู้สมัคร (รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1*1.5 นิ้ว ขนาดไฟล์ 40-100 KB ประเภทไฟล์.JPG)

7.) พิมพ์บัตรประจำตัวสอบ พร้อมลงลายมือชื่อให้เรียบร้อย แล้วนำไปสอบ ก.พ.

  • การสมัครสอบแบบ Paper & Pencil (ทุกระดับวุฒิการศึกษา)

1.) เข้าเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th/OCSRegisterWeb/enrollselect

2.) เลือกหัวข้อย่อย “การสมัครสอบ ก.พ. แบบ Paper & Pencil”

3.) กรอกข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด

4.) กรอกข้อมูลการชำระเงินสมัครสอบ โดยสามารถปรินต์ไปชำระธนาคารต่างๆ หรือปริ้นคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai Next” หรือ “เป๋าตัง”ก็ได้

5.) หลังจากชำระเงินแล้ว 1 วัน ให้ผู้สมัครสอบเข้าไปตรวจสอบใน เว็บไซต์ แล้วอัพโหลดรูปถ่ายของผู้สมัคร (รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1*1.5 นิ้ว ขนาดไฟล์ 40-100 KB ประเภทไฟล์.JPG)

7.) พิมพ์บัตรประจำตัวสอบ พร้อมลงลายมือชื่อให้เรียบร้อย แล้วนำไปสอบ ก.พ.

ขั้นตอนการพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ

1.) เข้าเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th/OCSRegisterWeb/enrollselect

2.) เลือก สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2563 แบบ e-Exam (สำหรับระดับ ป.ตรี และ ป.โท)” หรือ สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปประจำปี 2563 แบบ Paper & Pencil”

3.) เลือก “พิมพ์บัตรประจำตัวสอบ” กรอกเลขประจำตัวประชาชน และกรอกตัวอักษรที่เห็นบนหน้าเว็บ คลิก “ค้นหา”

4.) จะปรากฏชื่อ นามสกุล สถานที่สอบ หากตรวจสอบครบถ้วนแล้ว ให้กดปรินต์ได้เลย

ความแตกต่างของการสอบ ภาค ก, ภาค ข, ภาค ค

การสอบ ก.พ. ที่เราพูดถึงกันนี้ คือ การสอบ ก.พ. ภาค ก. แล้ว ภาค ข. หรือ ภาค ค. คืออะไรนั้น

ต้องบอกก่อนว่าในการสอบเข้าหน่วยงานราชการนั้นจะใช้ข้อสอบ ก.พ. อยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ ภาค ก., ภาค ข. และ ภาค ค. ซึ่งมีข้อแตกต่างกันดังนี้

ภาค ก. : เป็นการสมัครสอบโดยทั่วไปที่ผู้สอบจะต้องเจอกันทุกคน ถ้าผ่านแล้วจุงจะสามารถสอบในรอบของภาค ข. ได้

ภาค ข. : เป็นในส่วนของข้อเขียนในแต่ละตำแหน่งที่มีหลากหลาย จึงไม่ใช่ข้อสอบชุดเดียวกัน หรือสามารถใช้ร่วมกันได้

ภาค ค. : เป็นในส่วนของการสัมภาษณ์และการพิจารณาของทางหน่วยงานราชการต้นสังกัดเราเป็นหลัก

ทั้งนี้ ถ้าหากผ่านทุกรอบแล้ว ก็เตรียมตัวบรรจุเข้ารับราชการกันได้เลย