สอบ ก.พ. สำหรับน้องๆ ที่กำลังหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวสอบ ก.พ. คงเห็นคำว่า ก.พ. ภาค ก, ก.พ. ภาค ข หรือ ก.พ. ภาค ก พิเศษ ปี 2564 ซึ่งหลายคนคงสงสัยกันใช่ไหมครับ ? ว่าการสอบ ก.พ. พิเศษ คืออะไร แล้วการสอบ ก.พ. ภาค ก ต่างจากการสอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษยังไง ? วันนี้พี่บัสจะมาช่วยให้น้องๆทุกคนเข้าใจว่าสอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษ แตกต่างกับรอบทั่วไปยังไง ถ้าน้องๆ พร้อมแล้วไปดูเลยครับ
สอบ ก.พ. ภาค ก. รอบพิเศษ
หลายคนคงเคยเห็นหน่วยงานราชการบางหน่วยงาน กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครงาน ที่ผ่านการสอบวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (สอบ ก.พ. ภาค ข) แล้ว แต่ยังไม่มีหนังสือรับรองการผ่านการสอบ ก.พ. ภาค ก จำเป็นต้องสอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษอีกครั้ง โดยที่หน่วยงานจะส่งรายชื่อผู้ที่จำเป็นต้องสอบไปยังสำนักงาน ก.พ. เพื่อให้สามารถดำเนินการสอบ ก.พ. พิเศษ นั้นเอง
พูดแบบนี้แล้ว น้องๆ หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ พี่บัสขอสรุปไว้ให้ง่ายๆ ให้เข้าใจกัน ก.พ. ภาค ก พิเศษ คือ การสอบสำหรับผู้ที่ไม่ได้สอบ ก.พ. รอบปกติ แต่ได้สอบ ก.พ. ภาค ข ผ่านก่อนแล้ว (เป็นการสอบเฉพาะตำแหน่ง) ซึ่งเมื่อสอบผ่าน ภาค ข แล้วยังไงก็ตาม การทำงานราชการทุกคนจำเป็นต้องสอบ ก.พ. ภาค ก ให้ผ่าน เฉพาะนั้น จึงมีการสอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษขึ้นมา เพื่อสำหรับหน่วยงานบางหน่วยที่อนุญาตให้สอบเฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) ก่อนสอบ ก.พ. ภาค ก. นั้นเองครับ
สอบ ก.พ. รอบพิเศษ Vs รอบปกติ
บางคนอาจจะยังสงสัยว่า “แล้วการสอบ ก.พ. รอบพิเศษ แตกต่างจากการสอบ ก.พ. รอบปกติ ยังไงครับ/ค่ะ ?” มาทางนี้เลยครับ พี่บัสจะอธิบายง่ายๆ ให้เข้าใจเอง
ก.พ.และก.พ.พิเศษสามารถสอบได้ทุกคนไหม
ก.พ. ภาค ก พิเศษ : เป็นการจัดสอบให้เฉพาะผู้ที่สอบผ่าน ภาค ข. แต่ยังไม่มีหนังสือรับรอง ภาค ก.แล้วเท่านั้น
ก.พ. รอบปกติ : สามารถสอบได้ทุกคน โดยต้องมีคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดไว้
1 ปี มีการจัดสอบกี่ครั้ง ?
ก.พ. ภาค ก พิเศษ : สำหรับ ก.พ. ภาค พิเศษ เปิดให้สอบปีละ 2 ครั้ง หรือตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด
ก.พ. รอบปกติ : สอบได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้นโดยที่หากสอบ ก.พ. ภาค ก. รอบพิเศษผ่านแล้ว สามารถใช้ยื่นสมัครสอบกับส่วนราชการอื่นได้ เพราะเป็นการดำเนินการจัดสอบโดยสำนักงาน ก.พ. พร้อมทั้งใช้หลักสูตรการสอบและเกณฑ์การให้คะแนนเหมือนกับ ก.พ. ธรรมดา
เงื่อนไขและขั้นตอนการสอบ ก.พ. ภาค ก พิเศษ จะแตกต่างการสอบ ก.พ. รอบธรรมดาอยู่นิดหน่อยครับ โดยการสอบ ก.พ. รอบพิเศษ จำเป็นต้องสอบ ก.พ. ภาค ข. ให้ผ่านก่อน หากสอบภาค ข. ผ่านแล้ว สำหรับผู้ที่ยังไม่มีหนังรับรองผลการสอบผ่าน ก.พ. ภาค ก. จำเป็นต้องให้หน่วยงานส่งรายชื่อเพื่อสอบ ก.พ. รอบพิเศษ ที่จัดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สอบ ก.พ. รอบพิเศษ ที่ไม่ผ่านเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ สามารถใช้หนังสือรับรองคะแนน TOEIC, TOFEL, IELTS, CU TEP และ TU GET ยื่นแทนได้ (โดยจำเป็นต้องมีคะแนน 50% ขึ้นไป)
เมื่อสอบผ่าน ก.พ. รอบพิเศษผ่านแล้วทำยังไงต่อ ? เมื่อน้องๆสอบ ก.พ. รอบพิเศษผ่านแล้ว ขั้นต่อไปจะเป็นการสอบสัมภาษณ์ครับ หรือที่เรียกอีกชื่อคือ ก.พ. ภาค ค. นั้นเอง สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ สามารถดูรูปภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจมากกว่าเดิมด้านบนได้เลยครับ พี่บัสเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนการสมัครสอบ ภาค ก. พิเศษ
ขั้นตอนการสมัครสอบ ภาค ก. พิเศษ จะคล้ายๆกับวิธีสมัครสอบ ก.พ. รอบธรรมดาเลย สำหรับน้องๆที่จำเป็นต้องสอบ ก.พ. รอบพิเศษ สามารถทำตามที่พี่บัสบอกได้เลยครับ
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://ocsc5.thaijobjob.com/สามารถสมัครสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- เลือก “สมัครสอบ” ที่แถบเมนูด้านซ้ายมือของน้องๆได้เลยครับ
- กรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน และ วัน/เดือน/ปีเกิด อย่างลืมเช็คความถูกต้องด้วยนะครับ
- หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ระบบจะแสดงผลหน้าจอให้น้องๆตรวจสอบความถูกต้อง หากน้องๆต้องการแก้ไขข้อมูล สามารถคลิกที่แก้ไข ระบบจะกลับไปหน้ากรอกใบสมัคร เพื่อให้แก้ไขข้อมูลใหม่ได้ครับ
- หลังจากตรวจเช็คข้อมูลแล้ว สามารถกดยืนยันได้เลยครับ
เมื่อน้องๆ กดยืนยันเรียบร้อยแล้วระบบจะกำหนดฟอร์มการชำระเงินให้โดยอัตโนมัติ น้องๆ สามารถไปชำระเงินค่าธรรมเนียมการสมัครได้ตามระยะเวลาที่สำนักงานกำหนด ได้ที่เคาเตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา , ตู้ ATM กรุงไทย หรือ ชำระผ่าน KTB Netbank ได้เลยครับ
โดยค่าธรรมเนียมการสมัครสอบจะอยู่ที่ 250 บาท และค่าธรรมเนียมธนาคารไม่เกิน 30 บาท พี่บัสแนะนำให้น้องๆ เตรียมเงินไว้ 280 บาทไว้เลยดีกว่า เพื่อความชัวร์
สอบ ก.พ. ภาค ก. พิเศษ เปิดสอบปีละกี่ครั้ง
โดยปกติแล้วการสอบ ก.พ. ภาค ก. รอบพิเศษ จะจัดให้สอบปีละ 2 ครั้ง หรือ ตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด ซึ่งปี 2564 มีการจัดสอบ ก.พ. รอบพิเศษ จำนวน 3 ครั้ง ทั้งนี้การจัดสอบ ก.พ. รอบพิเศษ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในปีนั้นๆด้วยครับ
สอบ ก.พ. ภาค ก. พิเศษ ออกเนื้อหาอะไรบ้าง
น้องๆหลายคนคงมีคำถามใช่ไหมครับ ว่าสอบ ก.พ. รอบพิเศษยากไหม, ข้อสอบ ก.พ. ออกอะไรบ้าง, เกณฑ์ผ่าน ก.พ. รอบพิเศษเป็นยังไง ? สำหรับเนื้อหาและเกณฑ์การให้คะแนนของ ก.พ. ภาค ก. พิเศษ เหมือนกับการสอบ ก.พ. รอบธรรมดาทุกอย่างเลยครับ โดยมีเนื้อหาที่ออกสอบ ดังนี้
1. วิชาความรู้ทั่วไปและความสามารถในการคิดวิเคราะห์
- วิชาภาษาไทย 15 ข้อ
- วิชาคณิตศาสตร์ 35 ข้อ
2. วิชาภาษาอังกฤษ
- บทสนทนา 5 ข้อ
- หลักไวยากรณ์ 5 ข้อ
- คำศัพท์ 5 ข้อ
- การอ่านจับใจความ 10 ข้อ
3. วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี
- ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 ในส่วนของความผิดต่อหน้าที่ราชการ 2 ข้อ
- พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 6 ข้อ
- พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 6 ข้อ
- พ.ร.บ. ความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 2 ข้อ
- พ.ร.ฎ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 6 ข้อ
- พ.ร.บ. มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 3 ข้อ
เกณฑ์คะแนน ก.พ. ที่ต้องทำให้ได้
1. ระดับ ปวช. / ปวท / ปวส /อนุปริญญา และ ปริญญาตรี
- วิชาความรู้ทั่วไปและความสามารถในการวิเคราะห์ คะแนนเต็ม 100 จำเป็นต้องได้ 60 คะแนน หรือมากกว่าขึ้นไป
- วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 50 จำเป็นต้องได้ 25 คะแนน หรือมากกว่าขึ้นไป
- วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี คะแนนเต็ม 50 จำเป็นต้องได้ 30 คะแนน หรือมากกว่าขึ้นไป
2. ระดับปริญญาโท
- วิชาความรู้ทั่วไปและความสามารถในการวิเคราะห์ คะแนนเต็ม 100 จำเป็นต้องได้ 65 คะแนน หรือมากกว่าขึ้นไป
- วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 50 จำเป็นต้องได้ 25 คะแนน หรือมากกว่าขึ้นไป
- วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี คะแนนเต็ม 50 จำเป็นต้องได้ 30 คะแนน หรือมากกว่าขึ้นไป
และสำหรับน้องคนไหนที่สอบวิชาภาษาอังกฤษไม่ผ่าน สามารถใช้หนังสือรับรองคะแนน TOEIC, TOFEL, IELTS, CU TEP และ TU GET ยื่นแทนได้ แต่จำเป็นต้องมีหนังสือรับรองคะแนนสอบที่เท่ากับหรือมากกว่า 50% ขึ้นไปนะครับ
การเตรียมตัวก่อนสอบ ก.พ. ภาค ก. พิเศษ
1. ทำความเข้าใจกับโครงสร้างข้อสอบและวางแผนเวลาอ่านหนังสือ
เพราะการสอบ ก.พ. เป็นการสอบที่มีหลายวิชา ไม่ว่าจะเป็น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชที่ดี ดังนั้นการเข้าใจโครงสร้างข้อสอบ ว่าเนื้อหาในแต่ละวิชาออกอะไรบ้าง มีจำนวนกี่ข้อ เวลาที่ใช้ทั้งหมดคือกี่ชั่วโมง เกณฑ์คะแนนการผ่าน ก.พ. ต้องทำให้ได้กี่คะแนน ถือว่าสำคัญมากครับ เพราะตอนสอบจริงทุกวินาทีมีค่ามาก
พี่บัสจึงแนะนำให้น้องๆทุกคน วางแผนและแบ่งเวลาอ่านหนังสือของแต่ละวิชาให้ดี และการเข้าใจโครงสร้างข้อสอบสามารถช่วยให้น้องๆ รู้ว่าเนื้อหาตรงไหนที่ต้องโฟกัสเป็นพิเศษเพราะออกในข้อสอบเยอะ ต้องเก็บแต้มมาให้ได้นั้นเอง
2. อ่านหนังสือและฝึกทำโจทย์
หลังจากที่น้องๆ วางแผนเวลาอ่านหนังสือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการปฏิบัติจริง แต่นอกจากจะอ่านหนังสือตามแผนที่ได้วางเอาไว้แล้ว พี่บัสแนะนำให้ฝึกทำข้อสอบเก่าจากของปีก่อนๆ ที่ผ่านมาแล้วควบคู่กันไปด้วยครับ วิธีนี้จะช่วยให้ชินกับข้อสอบมากขึ้น ช่วยทำข้อสอบได้เร็วขึ้น และทำให้ตอนลงสนามสอบจริง ไม่ตื่นสนามสอบด้วยครับ
3. ลงคอร์สติวสอบ ก.พ.
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่เตรียมตัวสอบ ก.พ.ไม่ทัน ไม่มั่นใจว่าตัวเองอ่านตรงจุดไหม อยากสอบครั้งเดียวแล้วผ่านเลย หรือ บางคนสอบ ก.พ. ภาค ก. พิเศษหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ผ่านสักที พี่บัสแนะนำการลงสมัครคอร์สติวสอบ ก.พ. สามารถช่วยน้องๆ ที่ยังไม่พร้อมแต่จำเป็นต้องพร้อมแล้วเพราะวันสอบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และคนที่สอบหลายรอบแล้วแต่ไม่ผ่านสักที ในคอร์สติวสอบ ก.พ.นี้ ยังมีเทคนิคลับที่จะช่วยให้ทำข้อสอบได้ชัวร์และเร็วขึ้นกว่าเดิม
ติวสอบ ก.พ. ภาค ก. พิเศษ ที่ไหนดี
สำหรับน้องๆ คนที่ไหนที่ต้องการลงคอร์สติวสอบ ก.พ. ภาค ก. พิเศษ พี่บัสขอแนะนำคอร์สติวสอบ ก.พ. กับ Guru Academy โดยคอร์สติวสอบ ก.พ. พิเศษ ได้รวบรวมเทคนิคขั้นเทพที่จะช่วยให้น้องสอบผ่าน แถมประหยัดเวลาในการทำข้อสอบ นอกจากนี้ยังมีสรุปเนื้อหาครบทุกเนื้อหาที่จำเป็นในการสอบ พร้อมทั้งแนวข้อสอบ ก.พ. ที่พี่บัสเตรียมไว้สำหรับน้องๆ โดยเฉพาะอีกด้วย ทีนี้ไม่ว่าข้อสอบจะมาในรูปแบบไหน พลิกแพลงแค่ไหน จะพลิกกี่สิบตลบก็หาได้กลัว!
ข้อสรุป
สำหรับคนที่ต้องการทำงานข้าราชการ จำเป็นต้องสอบ ก.พ. ให้ผ่านทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ก.พ. ภาค ก. , ก.พ. ภาค ข. และ ภาค ค. ซึ่งการสอบ ก.พ. พิเศษ เป็นการสอบ สำหรับผู้ที่สอบผ่าน ภาค ข. เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการสอบ ภาค ก. มาก่อน จึงจำเป็นต้องทำการสอบ ภาค ก. พิเศษ เพื่อให้ตรงกับเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ โดยจะจัดสอบ ภาค ก. พิเศษ 2 ครั้งต่อปี
สำหรับน้องๆ คนไหนสนใจสมัครคอร์สติวสอบ ก.พ., คอร์สติวสอบนายสิบตำรวจ, คอร์สติวสอบท้องถิ่น หรือ คอร์สติวสอบครูผู้ช่วย โดยการันตีสอบติดชัวร์จากประสบการณ์ติวสอบข้าราชการมากกว่า 10 ปี สามารถติดต่อสอบถามกับทาง Guru Academy